ขนลุกซู่! “ชูวิทย์” ถูก “เศรษฐา” ฟ้อง จี้ชี้แจงแทนฟ้องปิดปาก

วันนี้ เวลา 09.00 น. นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เดินทางมาที่ศาลอาญา ถนนรัชดา พร้อมกล่าวถึงกรณีที่ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ส่งทนายความเป็นตัวแทนในการฟ้องร้อง หลัง นายชูวิทย์ แถลงข่าวพาดพิง นายเศรษฐา ขณะที่ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ว่า มีการทำนิติกรรมลักษณะอำพรางโอนซื้อขายที่ดินกับเอกชนหลบเลี่ยงภาษี โดยนายชูวิทย์ กล่าวว่า รู้สึกขนลุก ตอนนี้ตนมี 21 คดีแล้ว ที่ผ่านมาการเปิดโปงต่างๆ ก็ทำเพื่อชาติบ้านเมือง

นายชูวิทย์ กล่าวอีกว่า นายเศรษฐา เป็นบุคคลสาธารณะ และกำลังเสนอตัวเป็นนายกรัฐมนตรีของคนไทยทุกคน นายเศรษฐา มีความเป็นนายทุน เมื่อเป็นนายทุน ได้ใช้รถไฟความเร็วสูงสาย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อเข้าไปในพรรคเพื่อไทย

คุณสมบัติของ นายเศรษฐา เป็นสิ่งที่ประชาชนอย่างตนสามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้ เพราะหากอ้างอิงตามรัฐธรรมนูญในมาตรา 160 บุคคลที่เป็นนายก ก่อนที่ นายเศรษฐา จะเป็นนายกฯ จะต้องมีความซื่อสัตย์ สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ห้ามมีพฤติการณ์น่าสงสัย พฤติกรรมของ นายเศรษฐา มาจากการวางแผนกระทำการร่วมมือสนับสนุนในฐานะผู้ซื้อ และมีผู้ขายที่เป็นคู่สัญญาทำการหลบเลี่ยงภาษีคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

ส่วนประเด็นนี้ถ้า นายเศรษฐา จะฟ้องตน ตนเองก็ได้ปรึกษากับทนายความแล้วว่า จะฟ้องกลับ นายเศรษฐา อีกรอบเลยดีหรือไม่ เพราะนี่ถือเป็นการกลั่นแกล้งให้ตนปิดปาก และอีกอย่างเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเดียว มีประเด็นอื่นๆที่จะต้องแถลงต่อไป ดังนั้นสิ่งที่ตนพูด นายเศรษฐา จะต้องชี้แจง ต้องอธิบายให้ประชาชนรับทราบ การที่จะทำการมาฟ้องเพื่อปิดปาก ถือว่าทำไม่ได้ เพราะนายเศรษฐา กำลังจะถูกเสนอชื่อโหวตนายกฯ ลำดับต่อไปตนจะไปยื่นหลักฐานต่อ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.)

“เศรษฐา” ส่งทนายฟ้อง “ชูวิทย์” ข้อหาหมิ่นประมาทปมแฉเลี่ยงภาษี

"ชูวิทย์" แฉซ้ำ "เศรษฐา" ปั่นราคาที่ดิน ทะลุตารางวาละ 4 ล้าน

นายชูวิทย์ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่มีทนายบางคนออกมาตอบโต้ตน ถือว่าไม่เป็นไร เพราะเราอย่าลืมคำว่าจริยธรรม คนที่เป็นนายกจะต้องดี 100% ไม่ใช่ดีเพียง 50% เพราะคำว่าจริยธรรมเป็นเพียงเส้นบางๆ ระหว่างเล่ห์เหลี่ยมของนายทุน กับความซื่อสัตย์ของนายกรัฐมนตรีสิ่งที่ทำนี้ ถ้าคิดว่าถูกกฎหมาย ก็ต้องไปประกาศว่า สิ่งที่ทำเป็นกฎของ นายเศรษฐา การแบ่งแยกโอน 12 คน 12 วัน เปรียบเหมือนศรีธนญชัย มันเป็นสิ่งชัดเจนอยู่แล้วว่าคุณวางแผนอะไรกัน

เมื่อถามว่าเมื่อไปยื่นเรื่องที่สรรพากรได้คำตอบแล้วหรือไม่ นายชูวิทย์ กล่าวว่า ตนเป็นคนชอบขุด ชอบทำหลุมพราง คนอยากบอกว่าการนิติกรรมอำพรางลักษณะนี้ เคยมีการดำเนินคดีมาแล้วมีการตัดสินคดีมาแล้ว มีบทเรียนมาแล้ว มีโทษตามกรรม เมื่อผู้ซื้อและผู้ขายร่วมทำนิติกรรมอำพรางด้วยกันก็จะต้องรับโทษตามกฎหมาย

 ขนลุกซู่! “ชูวิทย์” ถูก “เศรษฐา” ฟ้อง จี้ชี้แจงแทนฟ้องปิดปาก

นายชูวิทย์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ”คนใส่สูทเวลาจะปล้นไม่ได้ใช้ปืน แต่ใช้กฎหมายเว้นวรรค"

You May Also Like

More From Author